12 กลไกการออกฤทธิ์ของสาร CBD และ THC ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งตับดีกว่า สารเดี่ยวๆ


สาร Cannabidiol (CBD) และ สาร delta-9-tetrahydrocannabinol (THC) เป็นสาร phytocannabinoids สำคัญหลัก 2 ชนิดที่พบในพืชตระกุลกัญชา หรือ Cannabis sativa แม้ว่ายังจำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม แต่สารเหล่านี้ได้ผ่านการศึกษาวิจัยในเบื้องต้นแล้วว่า สามารถช่วยในการจัดการเซลล์มะเร็งตับผ่านกลไกต่างๆได้จริง ซึ่งในบทความนี้จะอธิบายถึง 12 กลไกที่เป็นไปได้ ซึ่งสาร CBD และสาร THC ช่วยกันกำจัดเซลล์มะเร็งตับ และดีกว่า สารใดสารหนึ่งเดี่ยวๆ

1. Anti-proliferative effects: ยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์มะเร็ง

สาร CBD และสาร THC ได้รับการศึกษาวิจัยค้นพบว่า สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตและการเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็งตับได้ โดยการกระตุ้นให้มีการควบคุมหรือจำกัดการแบ่งเซลล์มะเร็งในวัฏจักรของเซลล์ ซึ่งจะทำให้เกิดการยับยั้งการแบ่งจำนวนและขยายจำนวนเซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งมีจำนวนน้อยลง โดยผ่านกลไกระดับเซลล์ เช่น การควบคุมการแสดงออกของโปรตีน เช่น โปรตีน CDK และไซคลิน ซึ่งโปรตีนเหล่านี้จะควบคุมการทำงานของวัฏจักรเซลล์ นั่นเอง

หรือเข้าใจง่ายๆ คือ สาร THC และ สาร CBD ช่วยกันควบคุมหรือยับยั้งไม่ให้เซลล์มะเร็งตับแบ่งตัวเพื่อขยายจำนวนได้ตามปกติ นั่นเอง

2. Apoptosis induction: กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งฝ่อตาย

สาร CBD และสาร THC สามารถกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งตับฝ่อตายตามโปรแกรมปกติได้ หรือที่เรียก กระบวนการนี้ว่า กระบวนการอะพอพโทซิส (apoptosis) ซึ่งในเซลล์มะเร็งตับกระบวนการนี้จะผ่านการกระตุ้นกระบวนการอะพอพโทซิสทั้งภายในและภายนอกเซลล์ และกลไกที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมกระบวนการอะพอพโทซิสและการต่อต้านกระบวนการอะพอพโทซิส เช่น Bax, Bcl-2 และเอนไซม์แคสเปส (caspases) ซึ่งท้ายที่สุดจะนำไปสู่การเสื่อมสลายของดีเอ็นเอเซลล์มะเร็งและเกิดการฝ่อตายของเซลล์มะเร็ง นั่นเอง

เข้าใจง่ายๆ คือ สาร CBD และ สาร THC เข้าไปกระตุ้นโปรตีนที่ทำให้เซลล์มะเร็งฝ่อตายให้ได้มากขึ้น และ ยังไปช่วยยับยั้ง โปรตีนที่ต้านการฝ่อตาย ให้หยุดทำงาน ผลสุดท้าย เซลล์มะเร็งก็จะค่อยๆฝ่อตายมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่มีโปรตีนมายับยั้ง นั่นเอง

3. Autophagy modulation: ควบคุมและกระตุ้นให้มีการย่อยสลายเซลล์มะเร็งมากขึ้น

กระบวนการ Autophagy เป็นกระบวนการระดับเซลล์ที่มีสำหรับการย่อยสลายและรีไซเคิลส่วนประกอบของเซลล์ที่เสียหาย ชำรุด หรือไม่ต้องการ ซึ่งสาร CBD และสาร THC สามารถควบคุมหรือกระตุ้นกระบวนการนี้ได้ โดยการเพิ่มหรือลดการควบคุมโปรตีนที่เกี่ยวข้อง เช่น Beclin-1 และ LC3-II ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการตายของเซลล์ในเซลล์มะเร็ง และช่วยรักษาเซลล์ปกติที่แข็งแรง

หรือสรุปว่า สาร CBD และ THC ช่วยควบคุมกระบวนการซ่อมแซมเซลล์มะเร็ง ซึ่งผลคือ จะไม่ให้มีการซ่อมแซม หรือ รีไซเคิล เซลล์มะเร็งที่อ่อนแอ หรือ ชำรุด เกิดขึ้น ให้กลับมาเป็น เซลล์มะเร็งที่แข็งแรง ที่พร้อมจะเพิ่มจำนวนอีกครั้ง นั่นเอง

4. Anti-angiogenic properties: ยับยั้งการสร้างเส้นเลือดขึ้นมาใหม่

การสร้างเส้นเลือดขึ้นมาใหม่ หรือ สร้างเส้นเลือดใหม่จากเส้นเลือดที่มีอยู่แล้ว มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและการเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็งตับและการแพร่กระจาย ซึ่งสาร CBD และ สาร THC สามารถยับยั้งกระบวนการนี้ได้ โดยการกำจัดหรือควบคุมปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ เช่น สาร vascular endothelial growth factor (VEGF) ที่มีส่วนในการสร้างเส้นเลือดขึ้นมาใหม่ ทำให้มะเร็งไม่สามารถสร้างเส้นเลือดเพื่อนำอาหารมาหล่อเลี้ยงได้ เป็นต้น

5. Anti-metastatic effects: ยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

สาร CBD และ สาร THC สามารถลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งตับไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ โดยการยับยั้งการย้ายถิ่น การบุกรุก และการยึดเกาะของเซลล์ ในร่างกาย และการยับยั้งกระบวนการเหล่านี้ทำได้โดยการควบคุมการแสดงออกของโปรตีน เช่น เมทริกซ์เมทัลโลโปรตีน (MMPs), E-cadherin และโปรตีนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของเซลล์และการย่อยสลายเมทริกซ์นอกเซลล์ เป็นต้น

สรุปก็คือ สาร CBD และ สาร THC ยับยั้งโปรตีนที่ทำให้ เซลล์มะเร็งสามารถเคลื่อนที่หรือรุกรานเซลล์ปกติรอบข้างได้ จึงสามารถจำกัดพื้นที่ไม่ให้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายได้ นั่นเอง

6. Inhibition of cancer stem cells: ยับยั้งเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์ของเซลล์มะเร็งตับ

เซลล์ต้นกำเนิดเซลล์มะเร็งหรือสเต็มเซลล์ เป็นกลุ่มย่อยของเซลล์มะเร็งที่เป็นจุดในการเริ่มต้นของเซลล์มะเร็งอื่นๆ ที่จะเพิ่มจำนวนขึ้น รวมทั้ง การดื้อยา การลุกลาม และการกลับเป็นซ้ำ เป็นต้น จะถูกกำหนดด้วยเซลล์มะเร็งต้นกำเนิดเหล่านี้ ซึ่ง สาร CBD และ สาร THC สามารถเข้าไปควบคุมหรือจัดการสเต็มเซลล์มะเร็งตับได้โดยผ่านกลไกต่างๆ เช่น ผ่านโปรตีน CD133 และ CD44 และยังสามารถยับยั้งการฟื้นฟูตัวเองของเซลล์มะเร็งได้ ผ่านกลไก เช่น เส้นทางการส่งสัญญาณ Wnt/β-catenin เป็นต้น

รายละเอียดมากกว่า 12 ข้อ สามารถอ่านเพิ่มเติมในหนังสือ 82 กระบวนท่า กัญชา กัญชง ฆ่ามะเร็ง สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ ที่ไลน์ Pharmalogger

7. Modulation of immune response: ปรับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันต่อเซลล์มะเร็ง

สาร CBD และสาร THC สามารถควบคุมหรือปรับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ โดยการส่งเสริมการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน เช่น เซลล์นักฆ่าตามธรรมชาติ (Natural killer) , เซลล์ T ( T cell) และ เซลล์แมคโครฟาจ เพื่อให้พุ่งเป้าเข้าไปโจมตีเซลล์แปลกปลอมที่เป็นเซลล์มะเร็งให้มากขึ้น เพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งให้มีประสิทธิภาพ และ นอกจากนี้ สารไฟโตแคนนาบินอยด์ทั้งสองยังส่งผลต่อการผลิตไซโตไคน์ เช่น อินเตอร์ลิวคินและอินเตอร์ฟีรอน (interleukins and interferons) ซึ่งช่วยควบคุมการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อเซลล์มะเร็งตับให้จำเพาะและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นเอง

8. Reducing inflammation: ลดกระบวนการอักเสบเรื้อรัง

การอักเสบเรื้อรังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดขึ้นของเซลล์มะเร็งตับ ซึ่งสาร CBD และสาร THC มีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้ โดยการยับยั้งการผลิตสารไซโตไคน์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ เช่น สาร tumor necrosis factor-alpha (TNF-α) และ สาร interleukin-6 (IL-6) และปรับการทำงานของ NF-κB ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อการอักเสบ ที่จะส่งผลต่อการเกิดขึ้นของเซลล์มะเร็งตับ นั่นเอง

9. Synergistic effects with conventional therapies: จะช่วยส่งเสริมกับการรักษาด้วยวิธีการอื่นๆ

สาร CBD และสาร THC จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษามะเร็งแบบดั้งเดิม เช่น การใช้ยาเคมีบำบัดและการฉายรังสี โดยการเพิ่มผลในการฆ่าเซลล์มะเร็งผ่านกลไกต่างๆ เช่น การเพิ่มสารอนุมูลอิสระในเซลลืมะเร็งมากขึ้น จนทำให้เซลล์มะเร็งตายได้ในที่สุด และสาร THC และ สาร CBD ยังสามารถลดผลข้างเคียงจากการใช้ยาเคมีบำบัดหรือฉายแสง เช่น เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และปวดตามเส้นประสาท ได้ เป็นต้น

ดังนั้น การใช้ยาเคมีบำบัด หรือ ฉายแสง แล้วเกิดผลข้างเคียงเกิดขึ้น การใช้ สาร CBD หรือ THC จึงน่าจะเป็นอีกทางเลือกในการดูแล

10. Regulation of signaling pathways: ควบคุมการส่งสัญญานเพื่อกระตุ้นให้เกิดเซลล์มะเร็ง

เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นได้ เพราะมีเส้นทางการส่งสัญญาณการกระตุ้นเพื่อให้เซลล์มะเร็งเริ่มแสดงตัวหรือเกิดขึ้นได้หลายเส้นทาง เช่น เส้นทาง PI3K/Akt/mTOR และ MAPK/ERK ซึ่งเส้นทางเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาของเซลล์มะเร็งตับให้มีการเพิ่มจำนวนและมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และสาร CBD และสาร THC สามารถปรับเส้นทางเหล่านี้เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ นั่นเอง

หรือเข้าใจง่ายๆ คือ สาร CBD และ สาร THC ยับยั้งหรือปรับเส้นทางการสื่อสารของเซลล์มะเร็ง ทำให้การสื่อสารของเซลล์มะเร็งไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จนนำไปสู่ความล้มเหลวในการก่อตัวขึ้นของมะเร็ง ในที่สุด

11. Modulation of endocannabinoid system: ปรับระบบการทำงานของระบบเอ็นโดแคนนาบินอยด์ในเซลล์ตับ

ระบบเอนโดแคนนาบินอยด์ซึ่งประกอบด้วยตัวรับแคนนาบินอยด์และสารเอ็นโดแคนนาบินอยด์ภายในร่างกาย มีบทบาทในการควบคุมกระบวนการทางสรีรวิทยาต่างๆ และ สาร CBD และสาร THC สามารถทำงานกับระบบเอ็นโดแคนนาบินอยด์นี้ได้ เพื่อควบคุมการเพิ่มจำนวน และการรุกรานของมะเร็งตับ เป็นต้น

12. Epigenetic alterations: การปรับเปลี่ยนกระบวนการที่ใช้ในการควบคุมรหัสพันธุกรรมที่ก่อให้เกิดเซลล์มะเร็งตับ

สาร CBD และ สาร THC สามารถจะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการที่ใช้ในการควบคุมรหัสพันธุกรรมที่ก่อให้เกิดเซลล์มะเร็งตับหรือ epigenetic ได้ เช่น ปรับหรือควบคุมกระบวนการ DNA methylation และ histone modified ที่สามารถยับยั้งการแสดงออกของ oncogenes หรือ ยีนที่ก่อให้เกิดเซลล์มะเร็ง และยังสามารถกระตุ้นการทำงานของยีนต้านมะเร็ง ซึ่งจะช่วยยับยั้งการพัฒนาและการลุกลามของมะเร็งตับได้ นั่นเอง

ถึงแม้ว่ากลไกเหล่านี้จะบ่งชี้ถึงผลการรักษาที่เป็นไปได้ของ CBD และ THC ต่อเซลล์มะเร็งตับ แต่จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจบทบาทอย่างถ่องแท้และเพื่อกำหนดกลยุทธ์การรักษาที่เหมาะสมที่สุด และก่อนใช้สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรทุกครั้งก่อนพิจารณาการรักษาทางเลือกอื่นสำหรับมะเร็งตับ

สามารถชมคลิปบรรยาย 12 กลไก กัญชา กับเซลล์มะเร็งตับ ได้ที่คลิปนี้ครับ

สนใจผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพต่างๆ สามารถติดต่อผ่านช่องทางด้านล่างได้เลยครับ