9 กลไกที่สารเคอร์คิวมินกำจัดเซลล์มะเร็งเต้านมได้


สารเคอร์คิวมิน หรือ Curcumin ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่พบในขมิ้นชัน (Curcuma longa) ได้รับการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางถึงคุณสมบัติในการต้านเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมะเร็งเต้านม ในที่นี้ เราจะอธิบายถึงกลไกต่างๆ 9 กลไกสำคัญที่สารเคอร์คิวมินทำหน้าที่ในการกำจัดเซลล์มะเร็งเต้านมได้ ดังนี้

1. Inhibition of cell proliferation: ยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์มะเร็ง

สารเคอร์คิวมินสามารถยับยั้งการเติบโตหรือเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็งเต้านมได้ โดยการปรับวิถีการส่งสัญญาณของเซลล์ต่างๆ เช่น วิถีการส่งสัญญานผ่านช่องทาง PI3K/Akt/mTOR และ MAPK เป็นต้น ซึ่งเส้นทางเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ การอยู่รอด และความแตกต่างของเซลล์ โดยการออกฤทธิ์ผ่านกลไกเป้าหมายเหล่านี้ ทำให้สารเคอร์คิวมินสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์ในมะเร็งเต้านมได้ในที่สุด

2. Induction of apoptosis: กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งฝ่อหรือตาย

สารเคอร์คิวมินส่งเสริมการตายของเซลล์ที่ตั้งโปรแกรมไว้ (apoptosis) ในเซลล์มะเร็งเต้านม ผ่านหลายกลไก ซึ่งสารเคอร์คิวมินสามารถกระตุ้นเอนไซม์ในตระกูล caspases ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของเอนไซม์ที่ยับยั้งการฝ่อหรือตาย (เช่น Bcl-2 และ Bax) และยังกระตุ้นการปลดปล่อยไซโตโครมซีจากไมโตคอนเดรีย ซึ่งกลไกเหล่านี้นำไปสู่การกระตุ้นการตายของเซลล์มะเร็งเต้านมและช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งได้ในที่สุด

3. Cell cycle arrest: ทำให้วัฎจักรการแบ่งเซลล์มะเร็งล้มเหลว

สารเคอร์คิวมินสามารถขัดขวางการแบ่งเซลล์ตามปกติของวัฏจักรของเซลล์ในเซลล์มะเร็งเต้านมได้ ซึ่งนำไปสู่การหยุดวัฏจักรของเซลล์ ทำได้โดยการออกฤทธิ์ผ่านการควบคุม cyclins, cyclin-dependent kinases (CDKs) และตัวยับยั้ง CDK ซึ่งผลที่ตามมาคือ สารเคอร์คิวมินจะหยุดวงจรของเซลล์มะเร็งเต้านม จึงช่วยป้องกันการเจริญเติบโตหรือแบ่งเซลล์ของเซลล์มะเร็งที่ไม่สามารถควบคุมได้

4. Inhibition of metastasis: ยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์

สารเคอร์คิวมินมีศักยภาพในการยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งเต้านม โดยการยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุผิว-มีเซนไคม์ (EMT) ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญในการแพร่กระจายของมะเร็ง ซึ่งเซลล์เยื่อบุผิวจะสูญเสียคุณสมบัติการยึดเกาะระหว่างเซลล์กับเซลล์ ทำให้ไม่สามารถรุกรานหรือลามไปยังที่อื่นๆได้ โดยสารเคอร์คิวมินเข้าไปออกฤทธิ์ผ่านช่องทางของตัวควบคุม EMT ที่สำคัญ เช่น Snail, Slug และ ZEB1 และยับยั้งการเปิดใช้งานเส้นทางการส่งสัญญาณต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ EMT รวมถึงเส้นทาง TGF-β, Wnt/β-catenin และ Notch เป็นต้น

5. Angiogenesis inhibition: ยับยั้งการสร้างเส้นเลือดใหม่ของเซลล์มะเร็ง

สารเคอร์คิวมินสามารถขัดขวางการสร้างเส้นเลือดใหม่ (Angiogenesis) ในมะเร็งเต้านม ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเนื้องอกและการแพร่กระจายของเนื้อร้าย โดยการลดการแสดงออกของปัจจัยที่ก่อให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ เช่น vascular endothelial growth factor (VEGF) และ matrix metalloproteinases (MMPs) เป็นต้น

6. Targeting cancer stem cells: กำจัดสเต็มเซลล์มะเร็งเต้านม

สารเคอร์คิวมินสามารถกำจัดเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็ง (CSCs) หรือ สเต็มเซลล์เซลล์ของเซลล์มะเร็งได้ ซึ่งเป็นเซลล์ย่อยของเซลล์ภายในมะเร็งที่มีความสามารถในการต่ออายุตัวเองและเพิ่มจำนวนมากขึ้น และยังเป็นจุดเริ่มต้นของเซลล์มะเร็ง การเติบโต และการกลับเป็นซ้ำ นั่นเอง ซึ่งสารเคอร์คิวมินสามารถยับยั้งการต่ออายุด้วยตนเองของ CSCs ของเต้านมและกระตุ้นการสร้างความแตกต่างโดยการปรับเส้นทางการส่งสัญญาณ Wnt/β-catenin, Hedgehog และ Notch เป็นต้น

7. Modulation of the tumor microenvironment: ควบคุมปัจจัยแวดล้อมที่ทำให้เซลล์มะเร็งเติบโต

สารเคอร์คิวมินสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของเซลล์มะเร็งได้ ซึ่งประกอบด้วยเซลล์ชนิดต่างๆ เช่น เซลล์ภูมิคุ้มกัน ไฟโบรบลาสต์ และเซลล์บุผนังหลอดเลือด ซึ่งมีปฏิสัมพันธ์กับเซลล์มะเร็งและมีส่วนทำให้เซลล์มะเร็งลุกลามได้ โดยสารเคอร์คิวมินสามารถยับยั้งการกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง ลดการอักเสบโดยยับยั้งการผลิตไซโตไคน์ที่ก่อการอักเสบ และปรับการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันเพื่อส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้ช่วยยับยั้งเซลล็มะเร็ง เป็นต้น

8. Regulation of microRNAs: ควบคุมไมโครอาร์เอ็นเอ

สารเคอร์คิวมินสามารถปรับการแสดงออกของไมโครอาร์เอ็นเอ (miRNAs) ซึ่งเป็น RNAs ขนาดเล็กที่ไม่มีการเข้ารหัส ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการแสดงออกของยีน โดยการกำหนดเป้าหมายเฉพาะ miRNAs เคอร์คูมินสามารถมีอิทธิพลต่อกระบวนการทางชีววิทยาต่างๆ ในเซลล์มะเร็งเต้านม หรือ เข้าใจง่ายๆ คือ สารเคอร์คิวมินสามารถบังคับไม่ให้ยีนที่ก่อมะเร็งที่ร่างกายมีอยู่แล้ว สามารถทำให้เกิดเซลล์มะเร็งขึ้นมาได้ โดยเข้าไปออกฤทธิ์ผ่านตัวควบคุมไมโครอาร์เอ็นเอ นั่นเอง

9. Inhibition of oncogenic signaling pathways: ยับยั้งสัญญานต่างๆที่ทำให้มีการกระตุ้นให้เกิดเซลล์มะเร็ง

สารเคอร์คิวมินสามารถยับยั้งหรือปรับเส้นทางการส่งสัญญาณที่เกี่ยวกับมะเร็ง หรือ oncogenic หลายเส้นทางที่มักมีความผิดปกติในมะเร็งเต้านม เช่น เส้นทาง NF-κB, STAT3 และ JAK/STAT เส้นทางเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการควบคุมการอักเสบ การอยู่รอดของเซลล์ การเพิ่มจำนวน และการบุกรุก โดยการยับยั้งการเปิดใช้งานสัญญานดังกล่าว จึงทำให้สารเคอร์คิวมินสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตและการลุกลามของเซลล์มะเร็งเต้านมได้ นั่นเอง

โดยสรุป สารเคอร์คิวมินมีศักยภาพต่อเซลล์มะเร็งเต้านมผ่านกลไกที่หลากหลาย รวมถึงการยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์ การเหนี่ยวนำการตายของเซลล์ การควบคุมวัฏจักรเซลล์ การยับยั้งการแพร่กระจาย การยับยั้งการสร้างเส้นเลือดใหม่ การยับยั้งสเต็มเซลล์มะเร็ง การปรับสภาพแวดล้อมมะเร็ง การควบคุม microRNAs และการยับยั้งเส้นทางการส่งสัญญาณ oncogenic

การค้นพบและจากการศึกษาวิจัยเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า สารเคอร์คิวมินอาจทำหน้าที่เป็นตัวแทนการรักษาที่มีแนวโน้มดีสำหรับการรักษาและป้องกันมะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่ออธิบายกลไกระดับโมเลกุลที่อยู่ภายใต้ผลต้านมะเร็งของเคอร์คูมินอย่างเต็มที่ และเพื่อพัฒนากลยุทธ์ในการปรับปรุงการดูดซึมและประสิทธิภาพการรักษาต่อไป

สนใจผลิตภัณฑ์หรือ ปรึกษา สอบถามผ่านช่องทางด้านล่างได้เลยครับ