ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ที่ผมติดตามการใช้อาหารเสริมหรือสมุนไพร ในการดูแลสุขภาพทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศอเมริกา และยุโรป จะพบว่า มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยมูลค่า นับแสนๆล้านบาทต่อปี ส่วนประเทศไทยก็ถ้านับมูลค่ารวมๆ ก็จะอยู่ประมาณหลักหมื่นล้านบาทต่อปี นับว่า มูลค่ามหาศาลมาก ซึ่งจากการที่ผมติดตาม ผมวิเคราะห์ถึงการที่คนหันมาสนใจมากขึ้น เป็นเพราะว่า
1. ความก้าวหน้าในการคิดค้นยา มาถึงทางตัน ถึงแม้โรคเรื้อรังต่างๆที่เป็นปัญหาของคนทั้งโลก เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น จะมีการประกาศยาใหม่ออกมาเกือบทุกปี และมีการปรับเปลี่ยนแนวทางในการรักษาใหม่ๆ แต่นั่นก็เป็นการ พายเรือในอ่างอยู่เช่นเดิม และยาใหม่ๆ ไม่เคยทำให้โรคเหล่านั้นหายขาด เพียงแค่บรรเทาอาการ หรือ ควบคุมโรคไว้เท่านั้น
2. ผู้ป่วยหรือมีแนวโน้มจะป่วย หมดความหวังในการพึ่งการแพทย์สมัยใหม่ หรือการใช้ยามากขึ้น ผู้ป่วยจะมีประสบการณ์การได้ยาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งป่วยนาน ยิ่งสะสมยาไว้มากขึ้น โดยที่ครั้งหนึ่ง เคยคิดว่า ยาที่ได้รับ จะช่วยได้ ถึงแม้จะรับประทานอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำก็ตาม แต่ผลที่ได้รับ กลับไม่เป็นตามนั้น
3. ข้อมูลด้านอาหารเสริมหรือสมุนไพร มีมากขึ้น ด้วยความสนใจของวงการสมุนไพรและอาหารเสริม มีมากขึ้น จึงทำให้มีการลงทุนพัฒนา คิดค้น และวิจัยที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น ทำให้เห็นถึงประโยชน์ของสารอาหาร หรือ สมุนไพร ที่ในอดีต ใช้กันมาตามคำบอกเล่า แต่เมื่อ วิทยาศาสตร์ สามารถอธิบายได้ ตอบคำถามได้ ความน่าเชื่อถือจึงมากขึ้น ผู้คนจึงเลือกใช้มากขึ้น
4. บุคลากรทางการแพทย์ ให้ความสนใจมากขึ้น ยอมรับมากขึ้น ในการนำมาใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วย ร่วมกับยาแผนปัจจุบัน หรือ ใช้แบบเดี่ยวๆ ซึ่งตรงนี้ ในเมืองไทย ยังถือว่า น้อยมาก ในการใช้ข้อมูลแบบนี้ในการดูแลผู้ป่วย ส่วนใหญ่ ที่มีกัน ก็จะเป็นไปในเชิงการค้า และ ดูแลกันไปตามมีตามเกิดของแต่ละแบรนด์
ซึ่งถือว่า ยังห่างไกลในแบบที่ควรจะเป็นแบบในอเมริกาหรือยุโรปอยู่มาก ผลเสียจึงตรงกับผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ปรากฏในสื่อมีเดียต่างๆเท่าไร (ไม่มีแบรนด์ไหน เอาอันตรายจากลูกค้าใช้สินค้าของตัวเอง มาลงหรอก) และปัจจุบันบุคลากรทางการแพทย์ ที่สนใจด้านนี้ ส่วนหนึ่ง เริ่มตระหนักว่า ยิ่งรักษา ยิ่งรู้สึกถึงทางตัน ให้ยาเดิมๆ เพิ่มยาเข้าไป ผู้ป่วยก็ไม่ดีขึ้น แถมได้รับผลเสียจากยาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
5. สูงสุดกลับคืนสู่สามัญ Back to the Basic เพราะสุดท้ายแล้วการเจ็บป่วย เกิดจากร่างกายขาดความสมดุลของสารอาหารที่เรารับประทาน ซึ่งปัจจุบัน ไม่กินมากไป ก็กินน้อยไป รวมทั้ง อาหารในปัจจุบัน การเกษตรเชิงพานิชย์ ทำให้สารอาหารในผักผลไม้ หรืออาหาร ที่เรารับประทานในทุกๆวัน มีไม่เพียงพอเหมือนในอดีต
และที่สำคัญ ร่างกาย คือ ธรรมชาติ จึงต้องได้รับสารอาหารจากธรรมชาติ ไม่ว่า จะสารอาหารต่างๆ หรือสมุนไพร เข้าไปในการเยี่ยวยาหรือทำการรักษา
ซึ่งทั้ง 5 เหตุผลที่ผมวิเคราะห์ ก็เพื่อทำให้ทราบว่า ปัจจุบัน การใช้อาหารเสริมหรือสมุนไพร ได้รับการยอมรับมากขึ้นทั่วโลก และเป็นผลดีต่อผู้ป่วยมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องทิ้งยาแผนปัจจุบันนะครับ เพราะการเลือกการดูแลสุขภาพ ต้องใช้องค์รวมมากพอสมควร ตรงนี้ ผมก็มีความกังวลมากๆ ในบางแบรนด์ที่ให้ลูกค้าหันไปรับประทานสินค้าตัวเอง แล้วทิ้งยาไป
มีคำถามสอบถามมาได้นะครับที่ไลน์ Pharmalogger หรือที่เมลล์ Pharm.oa@gmail.com ยินดีตอบทุกคำถามครับ
ภก.พงษ์ศักดิ์ สง่าศรี