3 อาหารเสริมที่มีการวิจัยว่าลดไขมันในเลือดได้ ด้วยกลไกเดียวกับยาในกลุ่ม Statin
ปัจจุบันอาหารเสริม รวมทั้งสารสกัดจากสมุนไพร มีการผลิตออกมาจำนวนมาก ถึงแม้กฎหมายจะไม่อนุญาตให้โฆษณาว่ามีสรรพคุณทางรักษาหรือป้องกันโรคได้ แต่ในความเป็นจริง ทุกแบรนด์ ทุกยี่ห้อ ล้วนโฆษณาเพื่อสร้างจุดขายให้กับสินค้า
ก่อนอื่นเรามาทราบกันก่อนว่า การสังเคราะห์ไขมันในร่างกาย ส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ตับ และเอนไซม์ที่มีส่วนสำคัญหลัก ในการสังเคราะห์ไขมันหรือสร้างไขมันขึ้นมาเพื่อใช้ในร่างกายนั้น มีชื่อที่เรียกกันง่ายๆว่า เอนไซม์ HMG Co A reductase
ฉะนั้น การที่จะยับยั้งการสังเคราะห์ไขมันจากตับ ไม่ให้สร้างมากเกินไป จึงจะต้องยับยั้งเอนไซม์ตัวนี้ เหมือนที่ยาในกลุ่ม Statin ออกฤทธิ์นั่นเอง
ปัจจุบันการศึกษาวิจัยก้าวหน้ามากขึ้น เราก็พบว่าสารสกัดจากสมุนไพรหรือสารอาหาร ที่เราเคบพบว่า ผู้ที่รับประทานเป็นประจำ ทำไมระดับไขมันในเลือดจึงลดลงหรือไม่สูงเกินมาตรฐาน ซึ่งเราก็พบว่า สารอาหารหรือสมุนไพรเหล่านั้นออกฤทธิ์เหมือนกันกับยากลุ่มนี้นั่นเอง ซึ่งมีดังนี้
- กระเทียม
กระเทียมจัดเป็นสมุนไพร ที่มีการใช้ในทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน รวมทั้งอยู่ในเมนูอาหารด้วยเช่นกัน กระเทียมมีสารที่ชื่อว่า Allicin ออกฤทธิ์ในการลดระดับไขมันในเลือดด้วยการยับยั้งการทำงานผ่านเอนไซม์ HMG Co A Reductase ซึ่งเป็นกลไกเดี่ยวกัน
- ขมิ้นชัน
ขมิ้นชันเป็นอีกหนึ่งในสมุนไพรที่อยู่ในตำราแพทย์ มาอย่างช้านาน รวมทั้งอยู่ในเมนูอาหารด้วย โดยเฉพาะอาหารทางภาคใต้จะมีขมิ้นเป็นองค์ประกอบอยู่หลายเมนู ขมิ้นชัน มีสารที่เรียกว่า Curcumin ออกฤทธิ์ในการลดระดับไขมันในเลือด
- โอเมก้า 3
โอเมก้า จัดเป็นสารอาหารอีกหนึ่งชนิดที่มีการศึกษาและงานวิจัยเกี่ยวกับคุณสมบัติในการลดระดับไขมันในเลือด ซึ่งส่วนใหญ่เราจะมักได้ยินกันว่า โอเมก้า 3 บำรุงสมอง แต่จริงๆแล้ว สรรพคุณในการลดระดับไขมันในเลือดก็เจ๋งไม่น้อยไปกว่ากัน โอเมก้า 3 ในรูปแบบอาหารเสริม สามารถหาซื้อได้ในรูปแบบของน้ำมัน (Fish oil) หรือ Krill oil น้ำมันโอเมก้า 3 ออกฤทธิ์ในการลดระดับไขมันในเลือดด้วยการยับยั้งการทำงานผ่านเอนไซม์ HMG Co A Reductase ซึ่งเป็นกลไกเดี่ยวกันกับการออกฤทธิ์
ทั้งกระเทียม ขมิ้นชัน และโอเมก้า 3 มีการผลิตออกมาจำหน่ายมากมายหลายแบรนด์ ซึ่งแบรนด์ที่จะได้ผลตามแบบงานวิจัยนั้น แบรนด์ต้องได้มาตรฐาน เพราะว่า คุณภาพของวัตถุดิบและสารสกัด รวมทั้งกระบวนการผลิต ล้วนส่งผลต่อประสิทธิภาพของการออกฤทธิ์ และที่สำคัญ ควรมีการศึกษาวิจัยจริงหลังจากผลิตเสร็จออกมาเป็นแบรนด์จะดีที่สุด และอยู่ในกรดอาหารเสริมแบบ Nutracetical
สงสัยหรือสอบถามข้อมูลมาได้ที่เมลล์ Pharm.oa@gmail.com หรือ ไลน์ Pharmalogger
อ้างอิงจาก
Role of garlic in dyslipidemia: an evidence based review. Scientific Journal of Biological Sciences (2015) 4(5) 36-42
The Effects of Curcumin on Lipids in Humans . Nutrition Bytes, 16(1) (2012)
Therapeutic Roles of Curcumin: Lessons Learned from Clinical Trials. The AAPS Journal, Vol. 15, No. 1, January 2013
Overview of Omega-3 Fatty Acid Therapies
A Meta-Analysis of Red Yeast Rice: An Effective and Relatively Safe Alternative Approach for Dyslipidemia
ภก.พงษ์ศักดิ์ สง่าศรี