April 29, 2023

กัญชาได้รับการยอมรับอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทั้งในด้านสันทนาการและการรักษาโรค รวมทั้งการดูแลสุขภาพด้านต่างๆ หลายคนอยากรู้และอยากทดลองใช้ แต่อาจไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน บทความนี้จะให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่ผู้เริ่มต้นในการใช้กัญชาอย่างปลอดภัยและใช้ได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง

1. Understand the basics of cannabis : เข้าใจพื้นฐานของกัญชา

น้ำมันกัญชาได้มาจากพืชกัญชาและมีสารไฟโตแคนนาบินอยด์ที่แตกต่างกันมากกว่า 100 ชนิด ซึ่งเป็นสารประกอบทางเคมีที่ทำปฏิกิริยากับระบบเอนโดแคนนาบินอยด์ของร่างกาย ซึ่งสารไฟโตแคนนาบินอยด์ ที่รู้จักกันดีที่สุดสองชนิดคือ THC (tetrahydrocannabinol) และ CBD (cannabidiol)

โดยสาร THC มีผลกระทบทางจิตและประสาทหรือทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “High” ที่เกี่ยวข้องกับกัญชา โดยจะมีอาการเเมา เคลิ้ม ร่องรอย ในขณะที่สาร CBD มีประโยชน์ในการรักษาโดยไม่มีผลต่อจิตและประสาท จึงต้องทำความคุ้นเคยกับสารประกอบเหล่านี้เพื่อทำการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเกี่ยวกับการบริโภคน้ำมันกัญชาของคุณ

สรุปเข้าใจง่ายๆ คือ น้ำมันกัญชาที่มีสาร THC สูงกว่าสาร CBD จะทำให้เกิดอาการเมาได้ จึงต้องระวังในการใช้สำหรับผู้เริ่มต้นใช้ใหม่ๆ

2. Choose the right strain : เลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสม

สายพันธุ์กัญชามีสามประเภทหลัก คือ สายพันธุ์ indica, สายพันธุ์ sativa และ สายพันธุ์ลูกผสม หรือ Hybrid ซึ่งแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะเฉพาะ ดังนี้

สายพันธุ์ Indica: เป็นที่รู้จักในด้านการผ่อนคลายและกล่อมประสาท มักใช้เพื่อบรรเทาอาการปวด ลดความวิตกกังวล และส่งเสริมการนอนหลับ สายพันธุ์อินดิก้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Northern Lights, Blueberry และ Granddaddy Purple

สายพันธุ์ Sativa: จะช่วยเพิ่มพลังและยกระดับจิตใจมากขึ้น โดยทั่วไปจะใช้เพื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ โฟกัส และต่อสู้กับความเหนื่อยล้า สายพันธุ์ sativa ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Jack Herer, Sour Diesel และ Green Crack

สายพันธุ์ลูกผสม: การผสมผสานระหว่างสายพันธุ์ indica และ sativa ให้ผลที่สมดุล ตัวอย่างของสายพันธุ์ลูกผสม ได้แก่ Girl Scout Cookies, OG Kush และ Pineapple Express

ในฐานะผู้เริ่มต้น คุณอาจต้องการเริ่มต้นด้วยสายพันธุ์ที่มีเนื้อหา THC ต่ำกว่า และมีสาร CBD ที่สูงขึ้นเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่น อาการเมา อาการเคลิ้ม เป็นต้น

3. Select your consumption method : เลือกวิธีการใช้

มีหลายวิธีในการบริโภคกัญชา แต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้

การสูบแบบบุหรี่ : วิธีการดั้งเดิมที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการสูดดมดอกกัญชาที่เผาไหม้แล้ว ให้ผลในทันที แต่อาจทำให้ปอดและคอระคายเคือง อาจมีการใช้แบบข้อต่อ หรือบ้องเพื่อสูบกัญชา เป็นต้น

การทำให้เป็นไอ : ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพแทนการสูบบุหรี่ เนื่องจากทำให้กัญชาร้อนถึงอุณหภูมิที่สารไฟโตแคนนาบินอยด์ถูกปล่อยออกมาโดยไม่มีการเผาไหม้ ให้ผลอย่างรวดเร็วและไม่รุนแรงต่อปอด เครื่องระเหยไอมีหลายประเภท ได้แก่ รุ่นพกพาและแบบตั้งโต๊ะ เป็นต้น

แบบรับประทาน : ผลิตภัณฑ์อาหารหรือเครื่องดื่มที่ผสมกัญชาซึ่งจะออกฤทธิ์ที่ยาวนานกว่า แต่ก็ใช้เวลานานกว่าที่จะเริ่มออกฤทธิ์ (30 นาทีถึง 2 ชั่วโมง) ตัวอย่างเช่น ผสมในบราวนี่ กัมมี่ และเครื่องดื่มผสม เป็นต้น สิ่งสำคัญ คือ ต้องเริ่มด้วยขนาดต่ำก่อน เพราะการบริโภคมากเกินไปอาจนำไปสู่ประสบการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ เช่น เมา เป็นต้น

ทิงเจอร์ : สารสกัดจากของเหลวที่สามารถอมใต้ลิ้นหรือใส่ในอาหารหรือเครื่องดื่ม แบบนี้จะให้ขนาดยาที่แม่นยำและมักจะออกฤทธิ์เร็วกว่าแบบรับประทาน ทิงเจอร์มีจำหน่ายในหลายความแรงและอัตราส่วนของสาร cannabinoid ต่างๆ

แบบใช้เฉพาะที่ : ครีม บาล์ม และโลชั่นที่ผสมกัญชา ใช้เป็นหลักในการบรรเทาอาการปวดและการอักเสบเฉพาะที่ ไม่มีผลกระทบต่อจิตและประสาท สามารถใช้ทาเฉพาะที่โดยตรงกับผิวหนังเพื่อบรรเทาอาการได้

4. Start with a low dose : เริ่มที่ขนาดต่ำก่อน

สำหรับผู้ใช้ครั้งแรก สิ่งสำคัญ คือ ต้องเริ่มต้นด้วยขนาดต่ำของสาร THC (ระหว่าง 2.5-5 มก.) และค่อยๆ เพิ่มตามความจำเป็น วิธีนี้จะช่วยให้คุณประเมินความอดทนของร่างกายได้และหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องรออย่างน้อยสองชั่วโมงระหว่างปริมาณที่รับประทาน เนื่องจากผลกระทบอาจใช้เวลาในการแสดงออกมา

สรุป คือ น้ำมันกัญชา ควรใช้ในขนาดต่ำก่อน โดยเน้นไปที่ สาร THC ที่ต่ำ เพราะสารนี้ จะทำให้เมาได้ แล้วค่อยปรับขนาดยาขึ้น ถ้าร่างกายปรับตัวได้แล้ว

5. Set the right environment : อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

ก่อนเริ่มใช้เป็นครั้งแรก ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายและคุ้นเคย ควรอยู่กับเพื่อนที่ไว้ใจได้ซึ่งมีประสบการณ์เกี่ยวกับกัญชา สิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นและให้คำแนะนำที่เหมาะสมได้หากจำเป็น

6. Learn about microdosing : เรียนรู้การใช้แบบไมโครโดส

Microdosing คือ แนวทางการปฏิบัติของการใช้น้ำมันกัญชาในปริมาณที่น้อยและมีการควบคุมเพื่อให้ได้ผลตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องใช้ปริมาณที่สูงอย่างเข้มข้นที่เกี่ยวข้องกับปริมาณที่มากขึ้น วิธีนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น เนื่องจากช่วยให้คุณค่อยๆ ปรับขนาดยาและหาปริมาณที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ เริ่มต้นด้วยขนาดที่ต่ำเพียง 1-2 มก. ของสาร THC และค่อยๆ เพิ่มจนกว่าคุณจะพบจุดที่เหมาะสม

สรุปก็คือ การเริ่มใช้น้ำมันกัญชา คือ การใช้ในปริมาณน้อยๆก่อน แล้วค่อยปรับขนาดยาขึ้น จนรู้สึกว่า ร่างกายได้รับผลลัพธิ์ที่พอใจ เช่น แก้ปวดได้ดี และไม่มีอาการข้างเคียง เป็นต้น

7. Pair cannabis with activities : ใช้ร่วมกับการทำกิจกรรมอื่นๆ

การใช้น้ำมันกัญชาร่วมกับกิจกรรมต่างๆ เช่น ฟังเพลง ดูหนัง ฝึกโยคะ หรือทำกิจกรรมสร้างสรรค์ จะทำให้ร่างกายผ่อนคลายได้มากยิ่งขึ้น

8. Understand the potential risks : ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงหรืออาการข้างเคียง

แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วน้ำมันกัญชาจะถือว่าปลอดภัย แต่สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ เช่น

การประสานงานบกพร่อง: กัญชาสามารถบั่นทอนทักษะการเคลื่อนไหวและเวลาตอบสนอง ทำให้กิจกรรมต่างๆ เช่น การขับรถหรือการใช้เครื่องจักรกลหนักเป็นอันตราย

อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น: บางคนอาจมีอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นชั่วคราว ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นอยู่ก่อนแล้ว

ความวิตกกังวลหรือความหวาดระแวง: ในบางกรณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสายพันธุ์ THC สูง กัญชาสามารถทำให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวลหรือหวาดระแวงได้ หากคุณพบผลข้างเคียงเหล่านี้ ให้พิจารณาเปลี่ยนไปใช้สายพันธุ์ที่มีปริมาณสาร CBD สูงกว่าหรือมีระดับสาร THC ต่ำกว่า

9. Storage and freshness : การเก็บรักษา

การจัดเก็บน้ำมันกัญชาอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาคุณภาพไว้ ควรเก็บในที่ที่มีอากาศถ่ายเท ห่างจากแสงแดดและความร้อนโดยตรง สถานที่ที่เย็นและมืด เป็นต้น

10. Communicate with a knowledgeable source : สอบถามแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ

หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับการบริโภคกัญชาในแง่มุมใดๆ ให้ติดต่อแหล่งที่มีความรู้เพื่อขอคำแนะนำ หรือ ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ หรือ ร้านขายยาใกล้บ้าน พวกเขาสามารถให้คำแนะนำและคำแนะนำส่วนบุคคลตามความต้องการและความชอบของคุณได้