สารสกัดจากเมล็ดองุ่น
เมล็ดองุ่นนั้นมีประโยชน์กับผิวพรรณเราเป็นอย่างมาก ซึ่งในองุ่นนั้นมีสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่พบมากในเมล็ด และเปลือกขององุ่น มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีและมากกว่าวิตามินอีถึง 20 และ 50 เท่าตามลำดับ บางทีเรียกกันว่า ซูเปอร์แอนติออกซิแดนท์ (Super antioxidant) เมื่อรับประทานร่วมกับวิตามินซี จะช่วยเสริมฤทธิ์ให้วิตามินคงตัว และออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น
การทำงานของสารกสัดจากเมล็ดองุ่น
เมล็ดองุ่นมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งรวมตัวกันอยู่จะเรียกว่า “โอริโกเมริค โปรแอนโธไซยานิดิน” (Oligomeric proanthocyanidin complex) หรือเรียกย่อๆ ว่า OPC ซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูงมากกว่าวิตามินซี และอีถึง 20 และ 50 เท่าตามลำดับ
มีงานวิจัยว่า สารสกัดจากเมล็ดองุ่นช่วยสร้างเสริมสารคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวหนังแข็งแรงและยังลดการทำงานของเอนไซม์ที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย และในระยะหลังๆ ตั้งแต่ปี 1980 พบว่า มีการใช้สารกลุ่มไบโอฟลาโวนอยด์ที่เป็นสารสกัดเมล็ดองุ่นในการรักษาความผิดปกติของหลอดเลือดและเส้นเลือดฝอย เส้นเลือดฝอยเปราะ และใช้รักษาเบาหวานขึ้นตาและจอประสาทตาเสื่อม นอกจากนี้ คุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระยังอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคมะเร็ง โรคข้ออักเสบ ลดภูมิแพ้จากยาต้านไวรัส ยาต้านมะเร็ง และเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกายได้ด้วย
ประโยชน์ของสารสกัดจากเมล็ดองุ่น
1.) ป้องกันริ้วรอย ฝ้า กระ
2.) ช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง
3.) ต้านการอักเสบ
4.) ลดอาการภูมิแพ้
5.) ป้องกันสมองเสื่อม
6.) ป้องกันการเสื่อมของดวงตา
7.) ป้องกันมะเร็ง
9.) เสริมฤทธิ์การทำงานของวิตามินซี
ขนาดและ วิธีการรับประทาน
รับประทานวันละ 50-100 มิลลิกรัม
ปล. อาหารเสริมที่เป็นสารสกัดองุ่น ที่อยู่ในรูปแบบอาหารเสริม หลายๆ ยี่ห้อ มักมีการระบุค่า OPC ซึ่งมักจะพูดกันว่าต้องมากกว่า 95 จึงจะถือว่ามีประสิทธิภาพที่สุด แต่แท้จริงแล้ว ค่า OPC เป็นค่าที่บ่งบอกถึงปริมาณของกลุ่มสารโอริโกเมริค โปรแอนโธไซยานิดิน เท่านั้น ไม่ได้เป็นค่าที่จะบ่งบอกหรือเปรียบเทียบตัดสินถึงคุณภาพและประสิทธิภาพของสารสกัดจากเมล็ดองุ่น เพราะว่า ยังมีวิธีการอีกหลากหลายวิธีที่ใช้วัดสารดังกล่าวได้
ภก.พงษ์ศักดิ์ สง่าศรี